กลับสู่ผืนโลก - Danilo Clementoni


ดานิโล เคลเมนโทนี (Danilo Clementoni)

กลับสู่ผืนโลก

การผจญภัยของแอซากิสกับเพทรี

ชื่อเรื่องต้นฉบับ: Il ritorno

แปลเป็นภาษาไทยโดย: อรกัญญ์ ภูมิโคกรักษ์

หนังสือเล่มนี้เป็นงานแต่ง ชื่อ ตัวละคร สถานที่และองค์กรใดๆ ที่กล่าวถึงเป็นงานจากจินตนาการของผู้แต่ง และเจตนาให้เรื่องเล่าเป็นแบบเฉพาะของตัวมันเอง ความคล้ายคลึงใดๆ กับเหตุการณ์หรือบุคคลจริงไม่ว่ามีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้วเป็นความบังเอิญล้วนๆ

กลับสู่ผืนโลก

สงวนลิขสิทธิ์ © 2013 Danilo Clementoni

ฉบับพิมพ์ครั้งแรก: เดือนพฤศจิกายน 2556

ฉบับพิมพ์ภาษาอังกฤษ: เดือนกันยายน 2559

ผู้แปลภาษาไทย: อรกัญญ์ ภูมิโคกรักษ์

จัดพิมพ์เองและพิมพ์เป็นเล่ม

เฟสบุ๊ค: https://www.facebook.com/danilo.clementoni

บล็อก: dclementoni.blogspot.it

อีเมล: d.clementoni@gmail.com

สงวนลิขสิทธิ์ ไม่มีส่วนใดของสิ่งพิมพ์เผยแพร่นี้ที่จะผลิตซ้ำได้ไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตามซึ่งรวมถึงโดยเชิงกลหรือทางอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบรรณาธิการ ยกเว้นการยกย่อหน้าสั้นๆ มาเพื่อวัตถุประสงค์ในการพิจารณาเท่านั้น

แก่ภรรยาและลูกชายของผมที่อดทนและให้ข้อเสนอแนะอันมีค่าซึ่งช่วยให้ผมได้ปรับปรุงทั้งเรื่องที่ผมเขียนและตัวผมเอง

ขอขอบคุณเพื่อนทุกคนเป็นพิเศษที่ให้ความสนับสนุนอันไม่สิ้นสุดและกระตุ้นให้ผมทำงานชิ้นนี้จนลุล่วง งานนี้คงไม่มีหวังถ้าปราศจากเพื่อนๆ

ผมขอขอบคุณ อรกัญญ์ ภูมิโคกรักษ์ ผู้แปล ที่ทำงานกับหนังสือเล่มนี้และแสดงความกระตือรือร้นในการแปลงานนี้จนสำเร็จลุล่วง

สารบญั

บทนำ 1

ยานธีออส – 1,000,000 กม. จากดาวพฤหัส 3

ดาวโลก – เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – อิรัก 7

ยานธีออส – โคจรรอบดาวพฤหัส 11

แนสซิริย์ยา – โรงแรม 15

ยานธีออส – สัญญาณเตือนเมื่อเข้าใกล้ 19

แนสซิริย์ยา – ภัตตาคาร แมสกูฟ 23

ยานธีออส – วัตถุลึกลับ 29

แนสซิริย์ยา – อาหารเย็น 35

ยานธีออส – การวิเคราะห์ข้อมูล 43

แนสซิริย์ยา – หลังอาหารเย็น 47

ยานธีออส – ผู้เฒ่า 57

แนสซิริย์ยา – การตื่นขึ้นมาใหม่ 63

ยานธีออส – ภาพของโลก 69

เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – การ ขุดค้น 79

ยานธีออส - การค้นพบอัน น่ากลัว 87

เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – โลงหิน 93

ยานธีออส – แถบดาวเคราะห์น้อย 105

เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – การโจมตียามวิกาล 111

ยานธีออส – ใบหน้าบนดาวอังคาร 119

เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – ความประหลาดใจในยามวิกาล 127

ยานธีออส – โคจรรอบโลก 133

เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – การ เปิดโปง 141

ยานธีออส – การเตรียมการสุดท้าย 155

เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – สี่ผู้คุ้มครองผู้ช่วงโชติ 161

เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – การติดต่อ 173

เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – การกู้คืน 185

ยานธีออส – อาคันตุกะบนยาน 199

ยานธีออส – วิวรณ์ 207

บรรณานุกรม 215

“เรากำลังเดินทางกลับมา ปีสุริยคติเพิ่งผ่านไปหนึ่งปีนับตั้งแต่เราจำเป็นต้องรีบเร่งออกจากดาวเคราะห์ดวงนั้น แต่สำหรับพวกเขาก็เป็นเวลา 3,600 ปีโลกแล้ว เราจะเจออะไรบ้าง”

บทนำ

ที่จริงดาวนิบิรุ (ดาวเคราะห์แห่งผู้ล่วงลับ) อย่างที่ชาวซูเมเรียนเรียก หรือมาร์ดุค (ราชาแห่งสวรรค์) อย่างที่ชาวบาบิลอนเรียก ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ดวงที่สิบสองนั้น เป็นเทหวัตถุในอวกาศที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ของเราโดยใช้ระยะเวลา 3,600 ปี วงโคจรเป็นวงรีมาก สวนทาง (หมุนรอบดวงอาทิตย์ในทิศทางตรงกันข้ามกับดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ) และทำมุมเอียงกับระนาบของระบบสุริยะของเราอย่างชัดเจน

การโคจรแต่ละรอบได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระหว่างดาวเคราะห์ขนานใหญ่ในระบบสุริยะของเราเกือบทุกครั้งทั้งในด้านวงโคจรและโครงรูปของดาวเคราะห์ที่ประกอบเป็นระบบนี้ ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่สับสนวุ่นวายมากครั้งหนึ่งนั่นเองที่ดาวเคราะห์ดวงโตที่ชื่อเทียแมต ซึ่งอยู่ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสด้วยมวลประมาณเก้าเท่าของมวลโลกทุกวันนี้ และอุดมไปด้วยน้ำและกอปรด้วยดาวบริวารสิบเอ็ดดวง ถูกทำลายไปเมื่อเกิดการชนอย่างรุนแรง ดวงจันทร์หนึ่งในเจ็ดดวงที่โคจรรอบนิบิรุชนเข้ากับเทียแมตยักษ์ ผ่ากลางมันและเหวี่ยงซีกทั้งสองไปโคจรในทิศทางตรงกันข้าม ดาวบริวารดวงที่เหลือของนิบิรุทำให้กระบวนการนี้อวสานลงในการเปลี่ยนแปลงครั้งถัดมา (“วันที่สอง” แห่งปฐมกาล) โดยทำลายหนึ่งในสองซีกที่เกิดจากการชนครั้งแรกจนหมดสิ้น เศษหินที่เกิดจากการชนหลายครั้งทำให้เกิดสิ่งที่เวลานี้เรารู้จักกันในชื่อ “แถบดาวเคราะห์น้อย” หรือ “กำไลสวรรค์” อย่างที่ชาวซูเมเรียนเรียก ดาวเคราะห์เพื่อนบ้านกลืนกินมันเข้าไปบางส่วน โดยเฉพาะดาวพฤหัสเป็นดาวที่จับเศษหินส่วนใหญ่ไว้ จึงเพิ่มมวลของมันเองอย่างเห็นได้ชัด

สิ่งที่เกิดขึ้นจากดาวบริวารจากหายนะครั้งนี้ซึ่งรวมถึงที่รอดจากเทียแมตนั้นถูก “ยิงออกไป” สู่วงโคจรชั้นนอกๆ เกิดเป็นสิ่งที่ขณะนี้เรารู้จักกันในนาม “ดาวหาง” ปัจจุบันส่วนที่รอดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งที่สองอยู่ในวงโคจรอันเสถียรระหว่างดาวอังคารกับดาวศุกร์โดยมีดาวบริวารที่เหลือดวงสุดท้ายติดไปกับมันด้วย จึงเกิดเป็นสิ่งที่ขณะนี้เราเรียกว่าโลกและดวงจันทร์ ซึ่งเป็นเพื่อนที่แยกจากกันไม่ได้

แผลเป็นที่เกิดจากการชนกันในจักรวาลซึ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4 พันล้านปีที่แล้วยังคงมองเห็นได้บางส่วนในทุกวันนี้ ขณะนี้น้ำปกคลุมท่วมส่วนแผลเป็นของดาวเคราะห์ในส่วนที่เรียกว่ามหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งกินพื้นที่ประมาณหนึ่งในสามของพื้นผิวโลกโดยแผ่กว้างครอบคลุมอาณาเขต 179 ล้านตารางกิโลเมตร บนพื้นที่มหาศาลนี้ไม่มีผืนดินขนาดใหญ่ใดอยู่เลย แต่มีหลุมขนาดใหญ่ลึกกว่าสิบกิโลเมตรอยู่แทน

ปัจจุบันดาวนิบิรุมีโครงรูปเหมือนโลกมาก สองในสามส่วนปกคลุมด้วยน้ำในขณะที่ส่วนที่เหลือปกคลุมด้วยทวีปเดียวที่แผ่จากทิศเหนือไปทิศใต้โดยมีพื้นผิวรวมกว่า 100 ล้านตารางกิโลเมตร ผู้อยู่อาศัยบางส่วนได้ฉวยประโยชน์จากการที่ดาวเคราะห์ของตนอยู่ใกล้กับของเราเองมาเป็นเวลาหลายแสนปีแล้วโดยมาเยี่ยมเป็นประจำ แต่ละครั้งก็ส่งอิทธิพลต่อวัฒนธรรม ความรู้ เทคโนโลยีและวิวัฒนาการของมนุษยชาติเอง บรรพบุรุษของเราเรียกพวกเขาหลายแบบ แต่ชื่อที่ใช้แทนได้ดีที่สุดน่าจะเป็น “เทพเจ้า”

ยานธีออส – 1,000,000 กม. จากดาวพฤหัส

แอซากิสยืดเส้นยืดสายอย่างสบายอยู่บนเก้าอี้เท้าแขนสีเข้มที่ปรับเข้ากับสรีระอัตโนมัติ ซึ่งเพื่อนช่างฝีมือของเขาทำขึ้นมาด้วยมือตนเองในโอกาสที่เขาปฏิบัติภารกิจพิเศษระหว่างดาวเคราะห์เป็นครั้งแรก และมอบให้เขาเป็นของขวัญเมื่อหลายปีก่อน

“มันจะนำโชคมาให้” เพื่อนได้บอกเขาในวันนั้น “มันจะช่วยให้นายผ่อนคลายและตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเวลาที่นายต้องการ”

เป็นจริงเช่นนั้น เขาได้ตัดสินใจอะไรหลายอย่างในขณะที่นั่งเก้าอี้ตัวนี้ และโชคก็มักเข้าข้างเขา เขาจึงรำลึกถึงความทรงจำอันมีค่านั้นเสมอเวลาตัดสินใจ ทั้งที่มีกฎจำนวนมากที่น่าจะห้ามไม่ให้ใช้เก้าอี้นี้โดยเฉพาะบนอากาศยานประเภทเบาเซน-1 อย่างลำที่เขาอยู่ในขณะนี้

กระจุกควันสีออกน้ำเงินลอยดิ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากซิการ์ที่เขาคีบไว้ระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้มือขวาในขณะที่ดวงตาของเขาพยายามตามรอยระยะทาง 4.2 หน่วยดาราศาสตร์

1

เพทรีผู้เป็นทั้งเพื่อนและเพื่อนร่วมผจญภัยของเขามีอายุเกือบสามสิบสอง และนี่เป็นภารกิจพิเศษครั้งที่สี่ในประเภทนี้ของเพทรี ร่างกายใหญ่โตและสง่างามทำให้ทุกคนที่พบเขาเกิดความเคารพ ด้วยดวงตาสีดำเหมือนอวกาศด้านนอก ผมยาวสีเข้มเป็นกระเซิงประบ่า ความสูงเกือบสองเมตรสามสิบ และทรวงอกและแขนอันทรงพลังที่สามารถยกเนบิร์

2

3

4

เครื่องยนต์ของยานซึ่งปรับเพื่อการเดินทางภายในระบบสุริยะส่งเสียงหึ่งแบบคลาสสิกเป็นสองช่วง สำหรับหูอันเชี่ยวชาญของ

แอซากิสแล้วเสียงนั้นหมายความว่ายานกำลังทำหน้าที่เป็นอย่างดี ด้วยการได้ยินไวเช่นนี้เขาจะสามารถรับรู้ความแปรผันในห้องปรับในระดับน้อยเพียง 0.0001 ลาสิก ได้เร็วกว่าที่ระบบควบคุมอัตโนมัติอันชาญฉลาดจะจับได้ เหตุผลนี้เองที่ทำให้แอซากิสได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการยานประเภทเพกาซัส

มีคนมากมายที่คงจะได้ยอมทำทุกอย่างให้ได้อยู่ในตำแหน่งนี้ แต่แอซากิสก็มาอยู่ตรงนี้แล้ว

สิ่งปลูกฝังในลูกตาที่เรียกว่า โอ^คอม ทำให้เส้นทางที่คำนวณใหม่เกิดเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาตรงหน้าแอซากิส เป็นเรื่องไม่ธรรมดาที่วัตถุขนาดไม่กี่ไมครอนสามารถทำหน้าที่ประเภทนั้นได้ สิ่งปลูกฝังนี้ใส่เข้าไปในเส้นประสาทตาโดยตรงแล้วทำให้สามารถมองดูโต๊ะควบคุมทั้งชุดได้โดยซ้อนภาพทับบนภาพที่อยู่ตรงหน้าแอซากิส

จริงๆ ตอนแรกก็ไม่ได้ง่ายที่จะชินกับเวทมนตร์ดังกล่าวนี้ และอาการคลื่นไส้ก็เกือบจะจัดการไม่ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แอซากิสกลับไม่สามารถทำงานได้หากปราศจากสิ่งปลูกฝังนี้

ระบบสุริยะทั้งระบบหมุนรอบตัวเขาด้วยความสง่างามอันน่าหลงใหลทั้งหลายทั้งปวง จุดสีน้ำเงินขนาดเล็กใกล้กับดาวพฤหัสขนาดใหญ่โตแสดงตำแหน่งของยาน ส่วนเส้นบางสีแดงซึ่งโค้งกว่า

เวอร์ชั่นที่จางหายไปในขณะนี้เล็กน้อยบ่งถึงแนววิถีเข้าหาโลกแนวใหม่

แรงดึงดูดโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ดวงใหญ่ที่สุดในระบบนั้นน่าตกใจ จำเป็นต้องรักษาระยะปลอดภัยไว้ และมีเพียงกำลังของเครื่องยนต์ประเภทเบาเซนสองเครื่องเท่านั้นที่จะทำให้ธีออสหนีอ้อมกอดมรณะนี้ได้

“แอซากิส” เครื่องสื่อสารแบบเคลื่อนย้ายได้ที่ติดอยู่กับโต๊ะตรงหน้าแอซากิสส่งเสียงต่ำ “เราต้องตรวจสอบภาวะของคู่ต่อในส่วนกั้นแยกที่หก”

“นายยังไม่ได้ทำอีกหรือ” แอซากิสตอบด้วยน้ำเสียงแหย่ที่ทราบว่าจะทำให้เพื่อนโกรธ

“โยนซิการ์เหม็นๆ นั่นทิ้งไปแล้วมาช่วยกันหน่อย!” เพทรีคำราม

ว่าแล้วเชียว

แอซากิสทำให้เพทรีอารมณ์ขึ้นได้สำเร็จและกำลังรู้สึกสนุกเป็นบ้า

“มาแล้ว มาแล้ว กำลังมา เพื่อน อย่ามีน้ำโห”

“มาเลย ฉันอยู่กับเรื่องบ้านี่มาสี่ชั่วโมงแล้วและไม่มีอารมณ์จะมาตลก”

ไม่พอใจเหมือนเคย แต่ไม่มีสิ่งใดและไม่มีใครจะสามารถแยกทั้งสองออกจากกันได้

ทั้งสองได้รู้จักกันตั้งแต่เด็ก เพทรีเป็นผู้ที่ได้ช่วยชีวิตแอซากิสจากการถูกตีซ้ำๆ (เพทรีเป็นเด็กที่ตัวใหญ่กว่ามาก) มากกว่าหนึ่งครั้ง โดยใช้ขนาดตัวอันน่าเกรงขามเข้าขวางระหว่างเพื่อนของตนกับแก๊งอันธพาลขาประจำซึ่งแอซากิสเป็นเป้าหมายบ่อยมาก

สมัยเป็นเด็กผู้ชาย แอซากิสไม่แน่ใจว่าตนจะเป็นคนประเภทที่เพศตรงข้ามผู้น่าดึงดูดใจมากหน่อยจะแย่งกัน แอซากิสแต่งกายในลักษณะซอมซ่อเสมอโดยมีศีรษะที่โกนผมเกลี้ยง ร่างกายผอมบาง และเชื่อมต่อกับระบบจีซีเอส

5

เรื่องนี้ไม่เคยสำคัญต่อเขาเลย

ความกระหายความรู้ของแอซากิสไม่เคยมีขีดจำกัด แอซากิสเชื่อมต่อแม้ในเวลากลางคืน แม้ว่าในขณะที่นอนหลับความสามารถในการได้มาซึ่งความรู้จะลดลงเหลือ 1% อันเนื่องมาจากความจำเป็นต้องใช้สมาธิเต็มที่นั่นเอง แต่แอซากิสไม่เคยปรารถนาที่จะเสียแม้สักชั่วครู่ของชีวิตไปโดยไม่ใช้โอกาสในการพัฒนาความรู้พื้นฐานโดยเฉพาะทางวัฒนธรรม

แอซากิสลุกขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยและตรงไปยังส่วนกั้นแยกที่หกซึ่งเพื่อนกำลังรออยู่

ดาวโลก – เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – อิรัก

เอลิซา ฮันเทอร์ พยายามปาดหยดเหงื่อน่าชิงชังออกจากหน้าผากอีกครั้งหนึ่ง หยดเหงื่อดูเหมือนมุ่งมั่นที่จะหยดลงบนจมูกอย่างช้าๆ และหยดลงสู่ทรายร้อนๆ ใต้ตัวเอลิซาผู้ได้คุกเข่ามาหลายชั่วโมงแล้วพร้อมด้วยเกรียงมาร์ชอลล์ทาวน์

6

7

น่าเสียดายที่เธอยังไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งที่คาดว่าเป็นภาชนะนี้อาจสูงเพียงใดเพราะจนถึงขณะนี้เพิ่งพบเพียงส่วนเล็กๆ ของส่วนบนเท่านั้น รอยแกะสลักอักษรรูปลิ่มที่ปกคลุมพื้นผิวที่มองเห็นได้ทั้งหมดของฝาไม่เหมือนสิ่งใดที่เธอเคยเห็น

การแปลรอยแกะสลักเหล่านั้นคงจะใช้เวลาหลายวันหลายคืนไม่ได้หลับได้นอน

“ด็อกเตอร์ฮันเทอร์”

เอลิซาเงยหน้า ใช้มือขวาป้องตาจากแสงแดด เอลิซาเห็นฮีแชมซึ่งเป็นผู้ช่วยของตนรีบเร่งมาหา

“อาจารย์ครับ” ฮีแชมเรียกอีกครั้ง “มีโทรศัพท์มาหาจากฐาน ฟังดูเป็นเรื่องด่วน”

“โอเค ขอบใจฮีแชม”

เอลิซาฉวยโอกาสจากการถูกบังคับหยุดพักนี้จิบน้ำซึ่งจนถึงขณะนี้เกือบเดือดแล้วจากกระติกน้ำที่เหน็บไว้กับเข็มขัดเสมอ

โทรศัพท์จากฐาน... สามารถหมายความได้เพียงว่ามีบางสิ่งบางอย่างไม่ถูกต้อง

เอลิซาลุกขึ้นยืน ปัดกลุ่มฝุ่นออกจากกางเกงขายาว และเดินอย่างมีจุดหมายไปยังกระโจมที่ทำหน้าที่เป็นฐานวิจัย

เอลิซาเปิดซิปที่ยึดกระโจมให้เปิดครึ่งหนึ่งและก้าวเข้าไปด้านใน ใช้เวลาชั่วครู่กว่าดวงตาจะปรับตามการเปลี่ยนแปลงแสงสว่าง แต่ทั้งนี้ไม่ได้หยุดไม่ให้เอลิซาจำได้ว่าเป็นใบหน้าของพันเอกแจ็ก

ฮัดสัน บนตัวจอภาพ เขากำลังจ้องมองความว่างเปล่าอย่างเคร่งขรึม รอให้เอลิซาปรากฏตัว

พันเอกผู้นี้รับผิดชอบทีมต่อต้านผู้ก่อการร้ายเชิงกลยุทธ์ที่ประจำอยู่ในแนสซิริย์ยา แต่หน้าที่ที่แท้จริงของเขาคือ การประสานงานโปรแกรมวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่หน่วยเอลแซด

8

เอลิซาไม่ได้ให้ความสำคัญกับทั้งหมดทั้งปวงเหล่านี้นัก เหตุผลที่แท้จริงที่เอลิซายอมรับคำเสนอให้เข้าร่วมในหนึ่งในการสำรวจเหล่านี้คือ เพื่อที่ตัวเธอจะสามารถกลับไปยังสถานที่ที่รักที่สุดในโลกได้ในที่สุดและได้ทำงานที่รัก ทั้งที่มีอายุค่อนข้างอ่อนเยาว์ (สามสิบแปด) แต่เอลิซาเป็นหนึ่งในผู้ประสบความสำเร็จที่สุดในสาขาของเธอ

“อรุณสวัสดิ์ค่ะท่านผู้พัน” เอลิซากล่าวพร้อมยิ้มหวานที่สุด “ทำไมฉันถึงได้รับเกียรตินี้คะ”

“ด็อกเตอร์ฮันเทอร์ ไม่มีความจำเป็นต้องเสแสร้งกัน คุณทราบดีมากว่าผมโทรมาทำไม ใบอนุญาตที่คุณได้รับให้ทำงานให้เสร็จสิ้นหมดอายุเมื่อสองวันที่แล้ว คุณอยู่ที่นั่นอีกต่อไปไม่ได้”

เสียงของเขาหนักแน่นและเด็ดขาด ครั้งนี้แม้แต่เสน่ห์ที่ปฏิเสธไม่ได้ของเอลิซาก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ได้ต่อเวลาใดๆ เอลิซาตัดสินใจวางไพ่ใบสุดท้าย

ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2546 เมื่อรัฐบาลผสมที่นำโดยประเทศสหรัฐอเมริกาได้ตัดสินใจบุกอิรักด้วยเจตนาชัดแจ้งในการขับไล่ผู้นำเผด็จการ ซัดดัม ฮุสเซน ผู้ถูกกล่าวหาว่าครอบครองอาวุธทำลายล้างสูง (ข้อกล่าวหาที่ต่อมาพิสูจน์แล้วว่าไม่มีมูล) และสนับสนุนอิสลามกับการก่อการร้ายในอิรัก การวิจัยทางโบราณคดีทั้งหลายซึ่งยากลำบากพออยู่แล้วในเวลาแห่งสันติก็ต้องถอยหลังเข้าคลอง มีเพียงการสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2546 เท่านั้นที่ได้จุดความหวังของนักโบราณคดีทั่วโลกขึ้นมาอีกครั้งว่าตนจะสามารถเข้าถึงสถานที่ที่อารยธรรมโบราณที่สุดในประวัติศาสตร์ได้พัฒนาขึ้นมาก่อนกระจายวัฒนธรรมไปทั่วโลกได้อีกครั้ง การตัดสินใจของเจ้าหน้าที่อิรักในช่วงปลาย พ.ศ. 2554 ในการเปิดการขุดค้นขึ้นอีกครั้งในสถานที่บางแห่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันประมาณมิได้เพื่อ "ส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมต่อไป" ได้เปลี่ยนความหวังให้เป็นความแน่นอนในที่สุด คณะวิจัยหลายคณะที่เจ้าหน้าที่กรรมาธิการที่เหมาะสมคัดเลือกและควบคุมดูแลจะสามารถทำงานเป็นเวลาจำกัดในบริเวณสำคัญที่สุดที่เป็นที่สนใจทางโบราณคดีในอาณาเขตอิรักได้ภายใต้ความอุปถัมภ์ของสหประชาชาติ และการอนุญาตมากมายที่ “เจ้าหน้าที่” จำนวนนับไม่ถ้วนลงนามและยืนยันก่อนหน้านี้

Дальше